ซีวิคซิ่งชนรถตู้บนด่วน "โทลล์เวย์" ผู้โดยสารร่วงลงมาตาย 8 ศพ เจ็บอีก 7

  1. iDnOuSe4
    iDnOuSe4
    รถตู้โดยสาร มธ.รังสิต-อนุสาวรีย์ชัย ถูกรถเก๋งฮอนด้าซีวิค ชนท้ายบนทางด่วนโทลเวย์ฝั่งขาเข้า ก่อนเสียหลักพลิกคว่ำพุ่งไปชนขอบปูนข้างทางจนพังยับ-ประตูเปิดออกเหวี่ยงผู้โดยสารกระเด็นตกลงมาตายบนถนนวิภาวดีรังสิต 8 ศพ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 7 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลวิภาวดี



    เมื่อเวลา 21.45 น.วันนี้ (27 ธ.ค.) พ.ต.ท.ฉัตรชัย เอี่ยมอ่อง พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.วิภาวดี รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนกันบนทางด่วนโทลเวลย์ ฝั่งขาเข้าช่วงด้านหน้าสำนักงานปรมณู และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส และตกลงมาจากทางด่วนเสียชีวิตจำนวนหลายราย จึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.ท.สนอง แสงมณี สว.จร.สน.วิภาวดี เจ้าหน้าที่ตำรวจราจร สน.วิภาวดี เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

    ที่เกิดเหตุบนทางด่วนโทลเวย์ เจ้าหน้าที่พบตู้โดยสารรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายทะเบียน 13-7795 กทม. เลขข้างรถ ต 11827 วิ่งระหว่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต-อนุสาวรีชัยสมรภูมิ เสียหลักพลิกคว่ำจนสภาพรถพังยับเยิน มีผู้โดยสารชายหญิงได้รับบาดเจ็บนอนร้องโอดโอยขอความช่วยเหลืออยู่ 6 คน ห่างไปเล็กน้อยพบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีขาว หมายเลขทะเบียน ฎว-8461 กทม.จอดอยู่กลางทางด่วนในสภาพหน้ารถพังยับเยิน ตรวจสอบข้างในรถพบผู้ได้รับบาดเจ็บหญิง 1 ราย เจ้าหน้าที่จึงรีบนำผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลวิภาวดีเพื่อให้แพทย์ช่วยชีวิตเป็นการด่วน

    ขณะเดียวกันบริเวณถนนวิภาวดีรังสิตช่องทางคู่ขนานฝั่งขาเข้า ช่วงสะพานลอยด้านหน้าสำนักงานปรมณู และข้างคลองริมรั้วมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิตชายหญิง ซึ่งเป็นผู้โดยสารรถตู้ที่กระเด็นตกลงมาจากทางด่วน กระจัดจายเกลื่อนพื้นถนน จำนวน 6 ศพ เป็นที่น่าสยดสยองอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังพบศพกระเด็นไปติดอยู่บนสะพานลอยคนข้ามถนนอีก 1 ศพ และอีก 1 ศพกระเด็นตกลงไปในคลองข้างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รวมแล้วมีผู้เสียชีวิต 8 ราย เป็นชาย 5 หญิง 3 ส่วนบนพื้นถนนเต็มไปด้วยเศษกระจก เศษเหล็กเต็มไปหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจแลต้องรีบปิดการจราจร เพื่อเคลียร์พื้นที่ส่งผลให้การจราจรเส้นทางวิภาวดีฝั่งขาเข้านั้นติดขัดอย่างหนักยาวไปจนถึงรังสิต

    จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุรถตู้โดยสารคันดังกล่าวกำลังวิ่งไปส่งผู้โดยสารที่อนุสาวรีย์ชัยฯ มาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ ก็ถูกรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค คู่กรณี ที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงพุ่งเข้าชนท้ายอย่างจังจนทำให้รถตู้เสียหลักพลิกคว่ำหลายตลบ กระจกแตก ประตูหลุด จนผู้โดยสารกระเด็นออกจากนอกตัวรถจนได้รับบาดเจ็บ และร่วงลงมาเสียชีวิตด้านล่างดังกล่าว

    สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 8 รายมีดังนี้คือ
    1.ดร.ศาสตรา เช้าเที่ยง นักวิทยาศาสตร์ประจำ สวทช. เพิ่งจบการศึกษา ป.เอก จากประเทศอังกฤษ เสียชีวิตห้อยอยู่บนสะพานลอยคนข้าม
    2.นายภิญโญ จินันทุยา ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายบริหารจัดการเทคโนโลยีและสารสนเทศ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/73 ซอยอารีย์ 4 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท นอนเสียชีวิตอยู่กลางถนนวิภาวดีรังสิต
    3.นายปรัชญา คันธา นักศึกษาชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105/29 หมู่ 1 ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่
    4.นายอุกฤษฎ์ รัตนโฉมศรี นักวิจัยไบโอเทค อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28/1 หมู่ 1 ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
    5.น.ส.สุดาวดี นิลวรรณ อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นหลานสาวของนางนฤมล นิลวรรณ ดารานักแสดงตัวประกอบ
    6.นางนฤมล ปิตาทานัง อายุ 38 ปี คนขับรถตู้
    7.นายเกียรติมันต์ รอดอารีย์ อายุ 23 ปี ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ อยู่ระหว่างการเตรียมตัว ศึกษาระดับ โท-เอก สาขา Nano-electronics เน้น Nano-Fabrication/ Organic Electronics/Nano-Device Engineering/ Nano-Instrumentation ต่างประเทศ
    8.นายพิสิฎฐ์ แดงใหม่

    สำหรับรายชื่อผู้บาดเจ็บ เข้ารับการรักษาตัว ที่โรงพยาบาลวิภาวดีมีดังนี้ คือ
    1.นายสุนทร ปิตาทานัง 43 ปี สามีนางนฤมล คนขับรถตู้
    2.นส.กันณภัส ปัญญาประเสริฐ 23 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส
    3.นายโมฮัมเหม็ด ชาวมัลดีฟส์ อายุประมาณ 35-40 ปี
    4.นายวรัญญู เกตุชู 20 ปี (พ้นขีดอันตรายแล้ว)
    5.นายวิศรุต พลสิทธิ์ 35 ปี
    6.น.ส.อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา อายุ 18 ปี คนขับรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค
    รายที่ 7 เป็นหญิงไม่ทราบชื่อ ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส
    แสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตและญาติๆ ครับ
    อย่าให้ปีใหม่ เป็นเทศกาลแห่งความเศร้าของใครบางคนเลยนะครับ
    ช่วยกันระวัง ตนเอง คนอื่น อย่าประมาท กลับให้ถึงบ้านอย่างปลอดถัยนะครับ

    ขอบคุณข่าวจาก www.manager.co.th
  2. bookerian
    bookerian
    ขอบคุรที่ส่งข่าวค่ะ อ่านแล้วตกใจมาก ช่วงนี้มีข่าวอุบัติเหตุทางรถในบ้านเราเยอะจัง
    ปีใหม่นี้เดินทางปลอดภัยกันทุกคนนะคะ
  3. iDnOuSe4
    iDnOuSe4
    Quote Originally Posted by bookerian View Post
    ขอบคุรที่ส่งข่าวค่ะ อ่านแล้วตกใจมาก ช่วงนี้มีข่าวอุบัติเหตุทางรถในบ้านเราเยอะจัง
    ปีใหม่นี้เดินทางปลอดภัยกันทุกคนนะคะ
    ใช่ครับ
    เหตุมันเกิดใกล้ตัวมาก
    ผมละยังหลอน คงเลี่ยงขึ้นรถตู้ไปอีกนาน พ่อแม่ก็เป็นห่วงครับ
    เฮ้อๆ
  4. IAm
    IAm
    ขอบคุณสำหรับข่าวค่ะ
    ขอให้ทุกชีวิตไปสู่สุขคติค่ะ
  5. iDnOuSe4
    iDnOuSe4
    Quote Originally Posted by IAm View Post
    ขอบคุณสำหรับข่าวค่ะ
    ขอให้ทุกชีวิตไปสู่สุขคติค่ะ
    ขอให้ทุกชีวิตไปสู่สุขคติ
    และขอให้ พวกเราทุกคน ทบทวน เรื่องราวที่เกิดขึ้น
    เพื่อเรียนรู้ และแก้ไข
    ป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก
  6. itasian
    itasian
    ช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้ละจากเป้าหมายตนเลยครับ
    ไ้ด้รับทราบข่าวนี้ครั้งแรก จากเพื่อนมาเล่าให้ฟัง
    เป็นเรื่องราวน่าเศร้า สำหรับครอบครัวของคนที่ได้รับอุบัติเหตุ

    ขอให้ทุกดวงวิญญาณที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ ไปสู่สุคติครับ

    ขอบคุณ คุณ iDnOuSe4 ที่นำข่าวมาให้ได้รับรู้กัน
  7. iDnOuSe4
    iDnOuSe4
    Quote Originally Posted by itasian View Post
    ช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้ละจากเป้าหมายตนเลยครับ
    ไ้ด้รับทราบข่าวนี้ครั้งแรก จากเพื่อนมาเล่าให้ฟัง
    เป็นเรื่องราวน่าเศร้า สำหรับครอบครัวของคนที่ได้รับอุบัติเหตุ

    ขอให้ทุกดวงวิญญาณที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ ไปสู่สุคติครับ

    ขอบคุณ คุณ iDnOuSe4 ที่นำข่าวมาให้ได้รับรู้กัน
    ยินดีครับ ขอให้ดวงวิญญาณเหล่านี้ไปสู่สุคติ
    และขอให้คนที่เดินทางทุกคน กลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยครับ
  8. iDnOuSe4
    iDnOuSe4
    เห็นข่าวนี้แล้วแค้นแทนญาติผู้เสียหายครับ

    แค่ทำคนตายไป แปด คน มันก็พอที่จะรับผิดชอบแล้วหน่ะ

    จะหาว่าผิดถูกอีกทำไม

    ทีมกฎหมายครอบครัว เทพหัสดิน ณ อยุธยา ออกแถลงการณ์ อ้างที่ผ่านมาข่าวคลาดเคลื่อน ความจริงแล้วซีวิคไม่ได้ชนรถตู้ ไม่เช่นนั้น "แพรวา" คงตายแล้วเพราะรถเก๋งเล็กกว่ารถตู้มาก อีกทั้งไม่ปรากฎว่ามีสีของซีวิคไปติดที่รถตู้ เผยผู้เสียหายบางคนเรียกร้องเงินสูงเกินกว่ากำลังครอบครัวจะปฏิบัติได้ วอนสังคมขอความเป็นธรรม พร้อมฝากถึง "ทีมกฎหมายธรรมศาสตร์ " พิจารณาคดีให้รอบคอบก่อนฟ้อง

    วานนี้ (25 ก.พ.) ทีมกฎหมายครอบครัว เทพหัสดิน ณ อยุธยา ส่งแถลงการณ์ในฐานะตัวแทนของครอบครัวของผู้ต้องหาในคดีอุบัติเหตุบนทางยกระดับ อุตราภิมุข ว่า ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงต่อกรณีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และขอแสดงความเสียใจกับทุกท่านที่ต้องสูญเสียผู้เป็นที่รักอีกครั้งหนึ่งจาก เหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาทางครอบครัวของผู้ต้องหานั้น ไม่ได้ออกมาให้ข่าวต่อสื่อมวลชนมากนัก แต่อย่างไรก็ตามในแง่ของมนุษยธรรม ทางครอบครัวของผู้ต้องหาก็พยายามที่จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น โดยไม่คำนึงถึงว่าใครจะผิดถูก เพราะเป็นที่ทราบชัดเจนว่าอุบัติเหตุดังกล่าว ก่อให้เกิดความสูญเสียเป็นอันมาก และจะเป็นอุทาหรณ์เพื่อเตือนสติกับบุคคลทั่วไปที่ใช้รถใช้ถนน รวมทั้งเป็นกรณีศึกษาที่หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องจะได้ศึกษาและหาทาง ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับวิศวกรรมจราจร และบุคคลผู้ใช้ถนนสาธารณะ

    แต่ในส่วนของกระบวนการตามกฎหมายนั้น ขอเรียนว่า เราได้ให้ข้อเท็จจริงกับพนักงานสอบสวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ผู้ต้องหาก็ได้ยืนยันข้อเท็จจริงว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้น ตนมิได้เฉี่ยวชนรถตู้โดยสารดังที่เป็นข่าว แต่เพราะต้องหักหลบรถตู้โดยสารที่เปลี่ยนเส้นทางกะทันหันเข้ามาในช่องทางที่ ผู้ต้องหานั้นขับรถอยู่ จนทำให้รถที่ผู้ต้องหาขับขี่มานั้นเสียหลักชนเข้ากับกำแพงกั้นขอบทาง เป็นเหตุให้รถยนต์เก๋งซีวิคได้รับความเสียหาย และตัวผู้ต้องหาก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน

    ทีมกฎหมายขอเรียนว่า อุบัติเหตุดังกล่าว ไม่ใช่สิ่งที่พึงประสงค์และทุกคนไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน และผู้ต้องหาก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น ส่วนบิดา และ มารดาของผู้ต้องหาก็ได้ระมัดระวังป้องกันมิให้ผู้ต้องหาขับรถมาตลอด จนกระทั่งต้องจำหน่ายรถยนต์ที่มีอยู่ในบ้านออกไปอีกหนึ่งคัน คงเหลือไว้สำหรับบิดาใช้ 1 คัน และ มารดาอีก 1 คัน เท่านั้น ส่วนการที่ผู้ต้องหาไปใช้รถยนต์ของบุคคลอื่นมาขับนั้น ทางครอบครัวเองก็ไม่เคยทราบมาก่อน ซึ่งหากรู้ก็คงต้องห้ามปรามและลงโทษอย่างแน่นอน

    ส่วนข้อเท็จจริงที่เกิดอุบัติเหตุนั้น ยังมีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏทางสื่อ ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งจากหลักฐานที่มีอยู่สามารถยืนยันได้ว่าไม่มีร่องรอยการชนเข้าไปด้านหลัง เต็มๆ อย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจ หรือที่เรียกว่าชนเข้าอย่างจังจนเป็นเหตุให้รถตู้โดยสารเสียหลัก ซึ่งถ้าหากเป็นเช่นนั้น ผู้ต้องหาย่อมต้องเสียชีวิตไปแล้วอย่างแน่นอน เพราะรถยนต์เก๋งซีวิค มีน้ำหนักและขนาดเล็กกว่ารถตู้โดยสารมาก และ หากมีการชนอย่างที่ว่านั้นจริง จะต้องปรากฏร่องรอยการชนบนรถทั้งสองคันอย่างแน่นอน

    อีกทั้งการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวมีข้อน่าสังเกตหลายประการ โดยเฉพาะการขับรถตู้โดยสาร เพราะเหตุใดจึงขับรถในช่องทางด้านขวา ทั้งที่เป็นรถสาธารณะ หรือรวมทั้งเพราะเหตุใดต้องขับคร่อมเลนและปรับเปลี่ยนช่องทางโดยกะทันหัน รวมทั้งจากการตรวจสอบพยานหลักฐานเบื้องต้น ก็ไม่ปรากฏว่าสีของรถยนต์เก๋งซีวิค ไปปรากฏบนส่วนหนึ่งส่วนใดของรถตู้ และในทางกลับกัน สีของรถตู้ก็ไม่ปรากฏบนตัวถังของรถยนต์เก๋งซีวิค ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ปรากฏชัดจากหลักฐานที่มีอยู่บนตัวถังรถทั้งสองคัน และจนถึงปัจจุบันกองพิสูจน์หลักฐานก็ยังไม่ได้ลงความเห็นชัดเจนต่อการเกิด อุบัติเหตุดังกล่าว ว่ามีการเฉี่ยวชนกันอย่างแท้จริงหรือไม่ ซึ่งข้อเท็จจริงเหล่านี้ คงต้องนำไปพิสูจน์กันในชั้นพิจารณาคดีของศาลต่อไป

    ในส่วนของครอบครัวผู้ต้องหาในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น ไม่มีโอกาสที่จะร้องขอความเห็นใจต่อกรณีที่เกิดขึ้น เพราะข่าวที่ออกมาทางสื่อมวลชนและสื่อทางอินเตอร์เน็ตต่าง ๆ ทำให้ผู้คนทั่วไปได้พิพากษาว่า ผู้ต้องหามีความผิดล่วงหน้าไปแล้ว ทั้งที่ศาลยังไม่ได้มีการพิจารณาพิพากษาตัดสินคดีแต่อย่างใด และข้อเท็จจริงก็ยังไม่ได้มีการพิสูจน์ถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุอย่าง ชัดเจน ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น รวมทั้งการออกมาให้ข่าวของบุคคลหลายคนต่อสื่อมวลชนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ ก่อให้เกิดผลกระทบทางจิตใจของผู้ต้องหาซึ่งเป็นเด็กและกระทบต่อครอบครัวของ ผู้ต้องหาเป็นอันมาก

    ทีมกฎหมายขอเรียนว่า การดำเนินคดีนั้น เป็นสิทธิของผู้เสียหายที่อยู่ภายใต้กรอบบทบัญญัติของกฎหมาย และเป็นเรื่องที่ศาลจะต้องพิจารณาในเนื้อหาของคดี แต่อย่างไรก็ตาม ก็อยากร้องขอไปยังทุกท่าน ให้พิจารณาให้รอบคอบถึงข้อเท็จจริงและเหตุผลในการดำเนินคดี และขอให้ดำเนินการภายใต้กรอบของกฎหมายเท่านั้น รวมทั้งขอให้ระมัดระวังในการให้ข่าวต่อสื่อมวลชนให้ตรงกับความเป็นจริงด้วย เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับตัวท่านและทางฝ่ายของผู้ต้องหา

    ทีมกฎหมายขอเรียนไปยังทุกท่าน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับฝ่ายของผู้ต้องหา เพราะที่ผ่านมา ทางฝ่ายผู้ต้องหาถูกประณามถึงความรับผิดชอบต่อกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งฝ่ายผู้ต้องหาได้พยายามดูแลปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างดีที่สุดตามกำลังความสามารถเท่าที่จะทำได้ รวมทั้งการติดต่อขอพบผู้ได้รับบาดเจ็บ และญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งบางท่านก็ได้รับแจ้งว่า ไม่สะดวกที่จะให้เข้าพบ บางท่านก็ได้เข้าพบและเจรจา โดยบางท่านได้เสนอข้อเรียกร้องเป็นจำนวนเงินที่สูงมากเกินกว่ากำลังความ สามารถที่ครอบครัวจะพึงปฏิบัติได้ ทั้งที่ข้อเท็จ จริงบางเรื่องยังไม่ได้สรุปชัดเจนและศาลยังไม่ได้มีคำพิพากษา จึงอยากจะร้องขอให้ทุกท่านได้พิจารณา รวมทั้งทีมงานด้านกฎหมายของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่เป็นผู้รับมอบอำนาจจาก ผู้เสียหายได้พิจารณาเรื่องดังกล่าว ให้รอบคอบก่อนดำเนินการ เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

    สุดท้ายนี้ ทีมกฎหมายขอขอบพระคุณทุกท่านที่กรุณารับฟังข้อเท็จจริง และหวังว่าทุกท่านคงจะเข้าใจเนื้อหา รวมทั้งปัญหาที่เกิดขึ้น และโปรดให้ความเป็นธรรมกับฝ่ายผู้ต้องหาด้วย จนกว่าเรื่องดังกล่าวจะได้รับการพิสูจน์ความจริงต่อไปกราบเรียนทุกท่านมา ด้วยความเคารพ ทีมกฎหมายครอบครัว เทพหัสดิน ณ อยุธยา
    ที่มา http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9540000025560
  9. Euphrates
    Euphrates
    ดูเขาพยายามจะไม่ผิด จะได้ไม่ต้องรับผิด -_-
  10. IAm
    IAm
    เฮ้อ อ่านแล้ว

    เห็นด้วยกับคุณEuphrates อย่างมากค่ะ
    ดูเขาพยายามจะไม่ผิด จะได้ไม่ต้องรับผิด
    มีเหตุผล(หรือข้ออ้างกันแน่นะ) ออกมาเยอะแยะมากมาย
    เพื่อให้ตัวเองไม่ผิด

    ทีมกฎหมายขอเรียนว่า อุบัติเหตุดังกล่าว ไม่ใช่สิ่งที่พึงประสงค์และทุกคนไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน และผู้ต้องหาก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น ส่วนบิดา และ มารดาของผู้ต้องหาก็ได้ระมัดระวังป้องกันมิให้ผู้ต้องหาขับรถมาตลอด
    แต่มันเกิดขึ้นแล้วนี่
    ผู้ที่เสียชีวิตและผู้โดยสาร บิดา มารดา และญาติของผู้เสียชีวิต
    ก็ไม่ได้ต้องการให้อุบัติเหตุนี้เกิดขึ้น เช่นกัน........
Results 1 to 10 of 10