เครื่องบินขับไล่ยุคที่ 1 (1945 - 1955)
ยุคที่ 1 ของเครื่องบินขับไล่เริ่มขึ้นพร้อม ๆ กับการกำเนิดของเครื่องบินรบไอพ่นแบบแรกของโลกคือ Me 262 เครื่องบินในยุคนี้มีอาวุธหลักคือปืนกลอากาศและปืนใหญ่อากาศ ระเบิดธรรมดาและกระเปาะจรวดเหมือนกับเครื่องบินในยุคสงครามโลก มีความเร็วต่ำกว่าเสียง ที่พิเศษกว่าเครื่องบินในยุคสงครามโลกก็คือส่วนใหญ่เครื่องบินมีปีกลู่หลังซึ่งให้ประสิทธิภาพทางการบินดีกว่าในย่านความเร็วที่สูงขึ้น
ตัวอย่างของเครื่องบินในยุคนี้ได้แก่ Me 262, F-84, F-86, MiG-15, MiG-17
ซึ่งเครื่องที่น่าสนใจที่สุดก็คือ F-86 และ MiG-15 ที่สร้างชื่อในยุทธเวหาเหนือน่านฟ้าเกาหลีในสงครามเกาหลีนั้นเอง
ซ้าย: F-86 ขวา: MiG-15
เครื่องบินขับไล่ยุคที่ 2 (1955 - 1960)
เครื่องบินในยุคนี้มีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงมากที่สุดก็คือการเปลี่ยนอาวุธหลักจากปืนกลอากาศมาเป็นจรวดนำวิถีอากาศสู่อากาศอย่าง AIM-9 หรือ AA-2 ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เปลี่ยนแนวทางและหลักนิยมในการรบติดพันไปเลยทีเดียว นอกจากนี้เครื่องบินในยุคนี้ยังเริ่มติดตั้งเรด้าห์ และสามารทำความเร็วเหนื่อเสียงได้ นอกจากนั้นเรายังเริ่มเห็นแผนแบบของปีกแบบ Delta Wing ที่ให้ประสิทธิภาพในการบินที่ความเร็วเหนือเสียง
ตัวอย่างของเครื่องบินในยุคนี้ได้แก่ เครื่องบินในชุด "Century Series" ของสหรัฐคือ F-100, F-101, F-102, F-104, F-105, F-106, MiG-19, MiG-21, Su-11, Hawker Hunter, Mirage-III, J-35 Darken เป็นต้น
J-35 Darken ของสวีเดน
เครื่องบินขับไล่ยุคที่ 3 (1960 - 1970)
เครื่องบินยุคนี้เริ่มติดตั้งจรวดนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยกลางแบบ Semi-active เช่น AIM-7 Sparrow โดยเครื่องนั้นเริ่มต้นในการมีคุณสมบัติ Multi-role หรือในภาษาไทยว่าพหุบทบาท โดยรวมความสามารถในการโจมตีทั้งภาคอากาศและภาคพื้นดินเข้าไว้ด้วยกัน
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือเครื่องบินในยุคสงครามเวียดนามอย่าง F-4, F-5, MiG-23, MiG-25, Su-22, Harrier, Mirage F.1, Super Etendard, J-8 II เป็นต้น
J-8 II ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน
เครื่องบินขับไล่ยุคที่ 4 (1970 - 1990)
เครื่องบินในยุคนี้แทบทั้งหมดยังประจำการอยู่ในปัจจุบัน โดยมีคุณสมบัติการเป็น Multi-Role ที่สมบูรณ์ สามารถใช้อาวุธอากาศสู่อากาศพิสัยกลางแบบ Active Radar เช่น AIM-120 ได้ ส่วนใหญ่แล้วเครื่องในยุคนี้จะเน้นที่ประสิทธิภาพในการรบมากกว่าความเร็ว
ตัวอย่างของเครื่องบินในยุคนี้คือ F-15, F-16, F/A-18, AV-8B, MiG-29, MiG-31, Su-27, Tornado, Mirage-2000, J-10, F-2 (JSADF), LCA (Indian AF), JA-37 Viggen
LCA: Currently Deveolping by Indian Air Force
เครื่องบินขับไล่ยุคที่ 4.5 (1990 - 2000)
เครื่องบินในยุคนี้เป็นกำลังหลักของกองทัพอากาศทั่วโลกอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งคุณสมบัติส่วนใหญ่คล้ายคลึงกับเครื่องในยุคที่ 4 เพิ่งแต่เพิ่มระบบ avionic ที่ทันสมัยขึ้น ปรับปรุงความอ่อนตัวในการปฏิบัติภารกิจให้ทำภารกิจได้หลากหลายขึ้น และมีคุณสมบัติตรวจจับได้ยาก (Stealth) ในระดับจำกัด
เครื่องบินที่อยู่ในยุคนี้ได้แก่ F/A-18 E/F, Su-30, Rafale และ Eurofighter
Su-30 MKI Indian AF
เครื่องบินขับไล่ยุคที่ 5 (2000 and Onward)
เครื่องบินในยุคนี้คือเครื่องบินขับไล่ที่เราจะเห็นไปอีกอย่างน้อย 20 - 30 ปี โดยคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดที่ต้องมีคือเทคโนโลยี Stealth ระบบ Data link (ระบบการกระจายข้อมูลระหว่างเครื่อง) รวมถึง Super Thrust (ระบบขับเคลื่อนความเร็วเหนือเสียงโดยไม่ต้องใช้สันดาบท้าย) เครื่องบินจะเป็นระบบอิเล็กทรอนิคล้วน ๆ
ในปัจจุบันมีเครื่องบินยุคที่ 5 เพียง 2 แบบคือ F-22 และ F-35 แต่รัสเซียได้ประกาศมาแล้วว่าเครื่องบินยุคที่ 5 ของตนกำลังพัฒนาและอาจจะพร้อมขึ้นบินในอีก 3 - 4 ปีนี้
F-35 Lightening II; Model AA-1
ตามไปอ่านข้อมูล เพิ่มเติมได้ที่
http://thaitechnical.igetweb.com/ind...=10&art=129824