สหรัฐฯ-พันธมิตรยิง “โทมาฮอว์ก” ถล่มทหารกัดดาฟี - ลิเบียชี้มติห้ามบินเป็นโมฆะ

  1. report @ home
    report @ home
    ขอบคุณข่าวจาก astv ผู้จัดการออนไลน์
    เรือพิฆาตติดขีปนาวุธ ยูเอสเอส บาร์รี (ดีดีจี 52) ยิงจรวดโทมาฮอว์กใส่ฐานที่มั่นของกองกำลังลิเบีย ในปฏิบัติการ "โอดิสซี ดอว์น" บริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียน วานนี้(19)
    เอเอฟพี - ลิเบียประกาศว่ามติหยุดยิงจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติถือเป็นโมฆะ พร้อมเรียกร้องให้เปิดการประชุมอีกครั้งโดยด่วน หลังสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรเปิดฉากโจมตีลิเบียทางอากาศ วานนี้ (19)

    สหรัฐฯ, อังกฤษ และฝรั่งเศส เปิดฉากถล่มลิเบียด้วยการโจมตีทางอากาศและจรวดโทมาฮอว์ก หลังคณะมนตรีความมั่นคงฯ สั่งประกาศเขตห้ามบินเหนือลิเบียเพียง 2 วัน

    กระทรวงการต่างประเทศลิเบียแถลงว่า ปฏิบัติการดังกล่าว “ถือเป็นการทำลายความมั่นคงและสันติสุขของนานาชาติ”

    “ลิเบียขอเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเปิดประชุม โดยด่วน เนื่องจากความรุนแรงที่สหรัฐฯ, อังกฤษ และฝรั่งเศส กระทำต่อลิเบีย ซึ่งเป็นรัฐเอกราชและสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ”

    วันพฤหัสบดี (17) ที่ผ่านมา คณะมนตรีความมั่นคงฯ โหวตสนับสนุนมติปี 1973 ซึ่งยินยอมให้ใช้ “ทุกมาตรการ” เพื่อปกป้องประชาชน, กำหนดเขตห้ามบิน และบีบให้รัฐบาลกัดดาฟีหยุดยิงทันที

    วันต่อมา ลิเบียได้ประกาศหยุดยิงฝ่ายกบฏซึ่งพยายามปฏิวัติล้มล้างรัฐบาลมาตั้งแต่ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พร้อมระบุว่าได้นำเครื่องบินรบลงจอดทั้งหมดแล้ว

    อย่างไรก็ตาม เมื่อชาติตะวันตกโจมตีลิเบีย “ผลของมติ ปี 1973 ซึ่งกำหนดเขตห้ามบินจึงถือว่าสิ้นสุด” แถลงการณ์กระทรวงการต่างประเทศลิเบีย ระบุ

    “ลิเบียมีสิทธินำพลเรือนและเครื่องบินของกองทัพมาใช้ปกป้องอธิปไตย หลังจากฝรั่งเศสละเมิดเขตห้ามบินก่อน”

    สหรัฐฯ และอังกฤษยิงจรวดโทมาฮอว์กแบบร่อนอย่างน้อย 110 ลูกถล่มหน่วยป้องกันทางอากาศของลิเบีย หลังเครื่องบินรบฝรั่งเศสเปิดฉากทิ้งระเบิดตามจุดต่างๆ นายทหารระดับสูงของลิเบียเผย



  2. report @ home
    report @ home
    “กัดดาฟี” ลั่นแก้แค้นตะวันตกแน่ ชี้ “เมดิเตอร์เรเนียน” เป็นสมรภูมิรบ

    ขอบคุณข่าวจาก astv ผุ้จัดการออนไลน์
    เรือพิฆาต ยูเอสเอส สเตาท์ ยิงจรวดโทมาฮอว์กถล่มฐานที่มั่นของทหารกัดดาฟีระหว่างปฏิบัติการ "โอดิสซี ดอว์น" ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน วานนี้(19)
    จรวดโทมาฮอว์กอย่างน้อย 110 ลูกถูกยิงใส่หน่วยป้องกันทางอากาศของลิเบียวานนี้(19) หลังจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติลงมติให้ใช้การแทรกแซงทางทหาร เพียง 2 วัน

    ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เช้าวันนี้ (20) มีการทิ้งระเบิดใกล้ศูนย์บัญชาการ บับ อัล-อะซีซียะห์ ของกัดดาฟีในกรุงตริโปลี ทำให้กองทัพลิเบียยิงตอบโต้ด้วยปืนต่อสู้อากาศยาน

    สถานีโทรทัศน์แห่งชาติรายงานว่า ประชาชนหลายร้อยคนมารวมกันเป็นโล่มนุษย์ให้กับ กัดดาฟี ที่ บับ อัล-อะซีซียะห์ รวมถึงสนามบินนานาชาติกรุงตริโปลี

    เจ้าหน้าที่ลิเบียเปิดเผยว่า พบผู้เสียชีวิต 48 ราย หลังเครื่องบินรบฝรั่งเศสโจมตียานพาหนะซึ่งอ้างว่าเป็นของฝ่ายสนับสนุนกัดดา ฟี ในเวลาประมาณ 16.45 น.(GMT)วานนี้(19)

    สื่อรัฐบาลลิเบียรายงานว่า เครื่องบินรบฝ่ายตะวันตกทิ้งระเบิดใส่พลเรือนในกรุงตริโปลี ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ขณะที่โฆษกกองทัพระบุว่า ถังเก็บเชื้อเพลิงในเมืองมิสราตาซึ่งกลุ่มกบฎยึดครองอยู่ ก็ถูกโจมตีเช่นกัน

    ในแถลงการณ์สั้นๆ ผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ กัดดาฟีประณามการกระทำของชาติตะวันตกว่า “ป่าเถื่อน และเป็นความก้าวร้าวของนักรบครูเสดที่ไร้ความชอบธรรม” พร้อมลั่นวาจาว่า จะแก้แค้นด้วยการโจมตีทั้งทหารและพลเรือนบริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งขณะนี้กลายเป็น “สมรภูมิ” ไปแล้วอย่างแท้จริง

    “ขณะนี้คลังสรรพาวุธถูกเปิดออกแล้ว ชาวลิเบียจะจับอาวุธกันทุกคน” เพื่อต่อสู้กับกองกำลังตะวันตก กัดดาฟีเตือน

    กระทรวงการต่างประเทศลิเบียแถลงว่า ปฏิบัติการของชาติตะวันตก “ถือเป็นการทำลายความมั่นคงและสันติสุขของนานาชาติ”

    “ลิเบียขอเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเปิดประชุม โดยด่วน เนื่องจากความรุนแรงที่สหรัฐฯ, อังกฤษ และฝรั่งเศส กระทำต่อลิเบีย ซึ่งเป็นรัฐเอกราชและสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ”

    ชาวนครลอสแองเจลิสของสหรัฐฯ ออกมาเดินขบวนรำลึกครบรอบ 8 ปีแห่งการบุกอิรักวานนี้(19) พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการทำสงครามกับลิเบีย
    วันพฤหัสบดี (17) ที่ผ่านมา คณะมนตรีความมั่นคงฯ โหวตสนับสนุนมติปี 1973 ซึ่งยินยอมให้ใช้ “ทุกมาตรการ” เพื่อปกป้องประชาชน, กำหนดเขตห้ามบิน และบีบให้รัฐบาลกัดดาฟีหยุดยิงทันที

    วันต่อมา ลิเบียได้ประกาศหยุดยิงฝ่ายกบฎ ซึ่งพยายามปฏิวัติล้มล้างรัฐบาลมาตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พร้อมระบุว่า ได้นำเครื่องบินรบลงจอดทั้งหมดแล้ว

    อย่างไรก็ตาม เมื่อชาติตะวันตกโจมตีลิเบีย “ผลของมติ ปี 1973 ซึ่งกำหนดเขตห้ามบินจึงถือว่าสิ้นสุด” แถลงการณ์กระทรวงการต่างประเทศลิเบีย ระบุ

    สถานีโทรทัศน์แห่งชาติอ้างรายงานจากเจ้าหน้าที่ความมั่นคงว่า ลิเบียจะงดให้ความร่วมมือกับยุโรปในการหยุดยั้งผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย ด้วย

    “รัฐบาลลิเบียตัดสินใจแล้วว่า จะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้นกับบรรดาผู้ที่อพยพเข้ายุโรปโดยผิดกฎหมาย”

    ประธานาธิบดี บารัค โอบามา กล่าวระหว่างเยือนบราซิลว่า ได้อนุมัติให้กองทัพสหรัฐฯเริ่มแผนการ “โอดิสซี ดอว์น” ซึ่งเป็นปฏิบัติการทางทหารอย่างจำกัด พร้อมยืนยันว่า จะไม่ส่งทหารสหรัฐฯเข้าไปในดินแดนลิเบียอย่างแน่นอน

    “อย่างที่ผมกล่าวไปแล้วเมื่อวานนี้ ผมขอย้ำอีกครั้งว่า เราจะไม่ส่งทหารสหรัฐฯเข้าไปในลิเบียแน่นอน” โอบามา กล่าว

    ด้านกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียแสดงความผิดหวังที่มีการโจมตีเกิด ขึ้นระหว่างประกาศใช้มติปี 1973 อย่างรีบเร่ง ขณะที่สหภาพแอฟริกาซึ่งไม่สนับสนุนการแทรกแซงทางทหาร จะส่งผู้แทนไปยังกรุงตริโปลีวันนี้ (20)

    นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน แห่งอังกฤษ ระบุว่า กัดดาฟี จะต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นในลิเบีย และถึงเวลาแล้วที่ประชาคมโลกจะไม่นิ่งเฉย

    “พันเอก กัดดาฟี เป็นผู้ทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น เขาโกหกต่อนานาชาติ เขาสัญญาว่าจะหยุดยิงแต่แล้วก็ผิดสัญญา เขายังคงทำร้ายประชาชนของตัวเองต่อไป” คาเมรอน ให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์อังกฤษ
  3. report @ home
    report @ home
    ข่าวจาก bbc.co.uk

    Libya attacked from air and sea



    Thank for photo by http://news.bbcimg.co.uk/media/image...ikes_624_2.jpg

    The UK, US and France have attacked Libyan leader Col Muammar Gaddafi's forces in the first action to enforce a UN-mandated no-fly zone.
    ติดตามอ่านต่อได้ ที่ http://www.bbc.co.uk/news/world-africa-12796972

    หรือ ดูการรายงานสดของสำนักข่าว bbc ได้ที่ http://www.bbc.co.uk/news/world-middle-east-12776418

    รูปจากสำนักข่าว bbc http://www.bbc.co.uk/news/world-africa-12798183

  4. Euphrates
    Euphrates
    ขอบคุณที่ส่งข่าวค่ะ

    ไม่รู้จะพูดอะไร ...ขอแสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสีย จากสงคราม...
Results 1 to 4 of 4