Growth Factor สวยบนความเสี่ยง

  1. bouquet1234
    bouquet1234
    โกรท แฟคเตอร์ (Growth Factor)

    สวยบนความเสี่ยง ถ้าคิดจะฉีด โกรท แฟคเตอร์

    หากใครกำลังคิดจะไปฉีด “โกรท แฟคเตอร์” (Growth Factor) เพื่อช่วยให้หน้าที่หย่อนคล้อยไปตามกาลเวลา กลับมาเต่งตึงอีกครั้ง คงต้องหยุดความคิดไว้ก่อนค่ะ เพราะการฉีด โกรท แฟคเตอร์ (Growth Factor) อาจจะไม่ ส่งผลใด ๆ ต่อใบหน้าเลย มิหนำซ้ำผู้ใช้บริการอาจเจ็บตัวฟรี เสียเวลาและเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์...จึงเป็นเรื่องที่น่าคิดว่า คุ้มค่าแล้วหรือที่ต้องแขวนความสวยไว้บนความเสี่ยง!

    ล่าสุดกับเทคโนโลยี “โกรท แฟคเตอร์” (Growth Factor) ที่เป็นการดูดเลือดจากแขนในปริมาณ 10 ซีซี จากนั้นก็นำเอาเลือดที่ได้ไปปั่น ทำให้เลือดเกิดการแยกออกเป็น 3 ชั้น ได้แก่ ชั้นที่เป็นน้ำใสๆ ชั้นที่เป็นเกล็ดเลือด และ ชั้นที่เป็นเม็ดเลือด

    จากนั้นก็ดูดส่วนใช้งานที่เป็นเกล็ด เลือดแล้วนำมาผสมกับวิตามินซี จากนั้นก็ฉีดกลับใบหน้าถึง 22 จุด!!


    เกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้มีสัญญาณเตือนออกมาจาก พญ.พร ทิพย์ ภูวบัณฑิตศิลป กรรมการสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ที่บอกว่า
    โดยปกติแล้ว ทางการแพทย์จะนำเกล็ดเลือด ซึ่งมี โกรทแฟคเตอร์ (Growth Factor) อยู่ นำไปฉีดให้คนไข้ที่มีเกล็ดเลือดต่ำ เพื่อเสริมเกล็ดเลือดให้คนไข้ หรือนำส่วนที่มีเม็ดเลือดเยอะๆ ไปให้คนไข้ที่เสียเลือดมาก จากอุบัติเหตุ
    แต่ปัจจุบัน กลับพบว่า มีนักการตลาดด้านความสวยหัวใสนำ โกรท แฟคเตอร์ (Growth Factor) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เซลล์ทำงานเป็นปกติ มาฉีดบนใบหน้า ด้วยเชื่อว่าจะสามารถช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ และ ลดรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ทั้งที่ความจริงแล้วกระบวนการนี้ ยังไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นไปตามมาตรฐานการรักษาของแพทย์ผิวหนัง และไม่มีงานวิจัยที่ดำเนินการทดสอบกับจำนวนคนที่มากพอจนเป็นที่ยอมรับ จึงมีความเสี่ยงในเรื่องของการติดเชื้อ ความสะอาดและความปลอดภัย

    ไม่เพียงจะต้องเสี่ยงต่อการติดเชื้อ แล้ว ยังต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากโดยเปล่าประโยชน์อีกด้วย ดังจะเห็นได้จากข้อมูลที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์ทุกฉบับที่ระบุเป็นเสียงเดียว กันว่า การใช้บริการโกรท แฟคเตอร์ (Growth Factor) 1 คอร์ส จำนวน 5 ครั้ง ต้องใช้เงินเป็นจำนวนกว่าสองหมื่นบาท ในขณะที่บางแห่งราคาสูงถึงหกหรือเจ็ดหมื่นบาทกันเลยทีเดียว

    ทั้ง ๆ ที่การฉีด โกรท แฟคเตอร์(Growth Factor) อาจจะไม่ส่งผลใด ๆ ต่อใบหน้าเลย มิหนำซ้ำผู้ใช้บริการอาจเจ็บตัวฟรี เสียเวลาและเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์...จึงเป็นเรื่องที่น่าคิดว่า คุ้มค่าแล้วหรือที่ต้องแขวนความสวยไว้บนความเสี่ยง!
    อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงสาธารณสุข ก็ได้ออกมาสั่งระงับการบริการด้วยวิธีดังกล่าวไว้ก่อน จนกว่าแพทยสภาจะมีวินิจฉัยในเรื่องนี้ออกมาว่าถูกต้องตามมาตรฐานวิชาชีพหรือ ไม่ คงต้องรอดูกันต่อไปว่า เรื่องนี้จะจบลงอย่างไร

    การฉีด โกรท แฟคเตอร์(Growth Factor) นี้ ถ้าดูโดยหลักการแล้ว น่าจะเป็นวิธีที่มีประโยชน์นะคะ เอาเป็นว่า ใครที่อยากทำ อดใจรอหน่อยค่ะ ให้ได้ผลการพิสูจน์ที่ชัดเจนก่อนว่า วิธีนี้ได้ผลจริง เพื่อให้ได้ผลคุ้มค่ากับเงินที่จะต้องเสียไปค่ะ

    แพทย์เตือนสาวกลัวเหี่ยวฮิต ทำ"โกรท แฟคเตอร์"อันตราย เสี่ยงเจ็บตัวฟรี แพงนับหมื่น

    แพทย์ผิวหนังเตือนสาวกลัวเหี่ยว ฮิตทำ "โกรท แฟคเตอร์" ฉีดเลือดเข้าผิวหน้า หวังลดตีนกา รอยย่น บนใบหน้า อันตรายเสี่ยงเจ็บตัวฟรี ค่ารักษาแพง นับหมื่น เผยวงการแพทย์ยังไม่ยอมรับ ชี้เป็นกลยุทธ์การตลาดบอกแต่ข้อดี ปิดบังข้อเสีย

    เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2553 พญ.พรทิพย์ ภูวบัณฑิตศิลป กรรมการสมาคมแพทย์ผิว หนังแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้มีกระแสความนิยมใน คลีนิคเสริมความงาม โดยการนำเลือดไปปั่นให้ได้ โกรท แฟคเตอร์ ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เซลล์ทำงานเป็นปกติ เพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ทำให้ใบหน้าดูดีขึ้นลดรอยเหี่ยวย่นถือเป็นกลยุทธ์หนึ่งทางการตลาดเท่านั้น ส่วนข้อเสียคือ อาจจะไม่มีผลการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เลย นอกจากนี้ ยังเจ็บตัวเสียเวลาและเสียเงินด้วย

    "ที่ผ่านมา กลยุทธ์ทางการตลาดต้องการที่จะขายของก็บอกแต่กลุ่มตัวอย่างวิจัยที่ได้ผล หรือบอกส่วนดีที่ได้ผลในห้องทดลอง แต่ไม่ได้บอกถึงข้อเท็จจริงหรือแง่ลบ ว่าใช้ในมนุษย์จริง ๆ แล้วเป็นอย่างไร ถึงกระแสความนิยมในการนำเลือดมาปั่นแล้วนำ โกรท แฟคเตอร์ ที่อยู่ในเกล็ดเลือดมาฉีดบนใบหน้าเพื่อความอ่อนเยาว์ว่า เทคนิคดังกล่าว ยังไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นไปตามมาตรฐานการรักษาของแพทย์ผิวหนัง เนื่องจากยังไม่มีงานวิจัยที่ดำเนินการทดสอบกับจำนวนคนที่มากพอจนเป็นที่ยอม รับ และอาจจะมีความเสี่ยงอาการติดเชื้อความสะอาดและความปลอดภัย
    " พญ.พรทิพย์ กล่าว

    พญ.พรทิพย์ กล่าวว่า โดยปกติการทำให้ผิวขาวคือการลดปัจจัยที่ทำให้แสงกระทบกับผิวหน้า การใช้ครีมกันแดด รวมถึงการทำทรีทเม้นท์ โดยให้เซลล์ผิวหนังชั้นขี้ไคลที่อยู่ชั้นนอกสุดลอกออก เพื่อให้เซลล์ผิวหนังชั้นกำพร้านั้น ดูกระจ่างใส นอกจากนี้ยังใช้ยาโดยเน้นหยุด การสร้างเม็ดสีของผิว เช่น ยาไฮโดรควิโนน ซึ่งเป็นสารห้ามใช้ในเครื่องสำอางแต่สามารถนำไปใช้เพื่อการรักษาได้

    นพ.สม ศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวว่า แพทยสภาได้ตรวจสอบการใช้เลือดมาปั่นแล้วนำ โกรท แฟคเตอร์ ที่อยู่ในเกร็ดเลือดมาฉีดบนใบหน้า ช่วยให้ผิวเต่งตึงแล้ว พบว่า วิธีการดังกล่าวยังไม่ได้รับการยอมรับทางการแพทย์ และถือว่าไม่ใช่วิธีการรักษาที่เป็นไปตามมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการจริธรรมว่ามีความ เหมาะสมเป็นไปตามหลักวิชาการหรือไม่ รวมทั้งแพทยสภาได้ทำหนังสือสอบถามไปยังราชวิทยาลัยอายุแพทย์แล้ว เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่ามีหลักฐานทางวิชาการอ้างอิงหรือ ไม่ หรือมีการวิจัยและตีพิมพ์ลงในวารสารทางการแพทย์ที่ได้รับการยอมรับหรือไม่


    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการโทรศัพท์ไปสอบถาม สถานบริการความงามชื่อดังแห่งหนึ่ง พบว่า มีการให้บริการ โกรท แฟคเตอร์1 คอร์ส จำนวน 5 ครั้ง ราคา 24,000 บาท โดยอ้างว่าให้ดูผิวอ่อนเยาว์หน้าตึง สำหรับขั้นตอนเป็นการดูดเลือดจากแขน 10 ซีซี ผสมกับวิตามินซี จากนั้นฉีดกลับใบหน้า 22 จุด สามารถทำได้ทุกสาขา ขณะที่การให้บริการ โกรท แฟคเตอร์ ในสถานบริการเสริมความงามบางแห่ง ใช้สาร โกรทแฟคเตอร์ สกัด โดยเป็นสารสกัดที่นำเข้ามาจากสหรัฐอเมริกาอ้างว่าได้รับการรับรองจากองค์การ อาหารและยา (อย.) อัตราค่าบริการ 1 คอร์ส จำนวน 4 ครั้ง 16,700 บาท หรือครั้งละ 5,500 บาท สรรพคุณ ทำให้ผิวหนังอวบอิ่ม ช่วยฟื้นฟูและสร้างเซลล์ผิวหนังใหม่ ทำให้ผิวเต่งตึงทันที อยู่ได้นาน 1 ปี ทั้งแพทย์และลูกค้าที่มาใช้บริการปลอดภัยดีและไม่มีการปั่นจากเลือด ฉีดใบหน้า เนื่องจากไม่สะอาดและไม่ปลอดภัย

  2. nate
    nate
    ได้ความรู้จริงจริง...ขอบคุณมากค่ะ
  3. Siambrandname Webmaster
    Siambrandname Webmaster
    ขออนุญาตเจ้าของกระทู้และเจ้าของกรุ๊ปครับ ทดสอบระบบการเชื่อมต่อกระทู้ระหว่าง Social Group และ Main Forum ครับ

    ขอบคุณครับ
Results 1 to 3 of 3