ข่าว ใต้ปะทะเดือด!ทหารพรานดับ 3 สาหัส 3

ยะลาปะทะเดือด ทหารพรานพลีชีพ 3 สาหัส 3 ขณะที่โจรใต้บาดเจ็บ เพื่อนร่วมขบวนการช่วยหลบหนีไปได้ จนท.สนธิกำลังไล่ล่า คาดเป็นอาร์เคเค.รุ่นใหม่ ออกซุ่มโจมตีสร้างอิทธิพล-สถานการณ์ในพื้นที่ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง...




เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 3 ต.ค.จ.ส.อ.ปรีดา หงสกุล หน.ชุดปฏิบัติการหน่วยพัฒนาสันติ ร้อย ทพ.41-6 กรมทหารพรานที่ 41 ค่ายวังพญา อ.รามัน จ.ยะลา ตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ที่บ้านอุแบ หมู่ 1 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา นำกำลังจำนวน 6 นายออกจากฐานลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยเส้นทางโดยใช้รถ จยย.จำนวน 3 คัน มาถึงท้ายหมู่บ้านห่างจากฐานราว 800 เมตร คนร้ายคาดว่า มีไม่ต่ำกว่า 10 คน ยืนเรียงรายซุ่มในป่าทึบข้างทาง เป็นระยะๆราว 100 เมตร ได้ใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่ม จ.ส.อ.ปรีดา จึงได้ส่งสัญญาณให้ทิ้งรถ จยย.แล้วยิงตอบโต้ตามยุทธวิธี จนเกิดการยิงปะทะกันขึ้นอย่างดุเดือด พ.ต.อ.สุวัตต์ วงค์ไพบูลย์ ผกก.สภ.บันนังสตา พ.ต.ท.วิชัย แจ้งสกุล รอง ผกก.สส. จ.อ.ปรเมศร์ จันทร์แสง ปลัดป้องกันอำเภอบันนังสตา ทราบเหตุสนธิกำลังเข้าช่วยเหลือ ปะทะกันราว 10 นาที จนในที่สุดพวกคนร้ายอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไปได้



ผลการปะทะ เจ้าหน้าที่ทหารพรานได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้ง 6 นาย มี จ.ส.อ.ปรีดา หงสกุล อายุ 35 ปี หน.ชุด อส.คมกริช ธารใจ อายุ 27 ปี อส.ทพ.กามา สะมะแอ อายุ 26 ปี อส.มนตรี ร่วมพูน อายุ 26 ปี อส.ทพ.สุทธิพงศ์ บุญรักษ์ อายุ 26 ปี และ อส.ทพ.อับดุลเลาะ แตะเซ อายุ 27 ปี ปรากฏว่า อส.ทพ.คมกริช และ อส.ทพ.กามา ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้สิ้นใจในเวลาต่อมา ผู้บาดเจ็บเฮลิคอปเตอร์ได้บินไปรับลำเลียงส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา



ตรวจสอบ ที่เกิดเหตุต่อมาพบปลอกกระสุนปืนของคนร้ายทั้งอาก้าและเอ็ม.16 ตกอยู่เกลื่อนกราดเก็บรวบรวมไว้ได้ร่วมร้อยปลอก นอกจากนั้นยังพบรอยเลือดสาดเปรอะบริเวณที่คนร้ายใช้เป็นที่ซุ่ม คาดว่า คนร้ายถูกยิงตอบโต้จนได้รับบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 2 คน พวกเพื่อน ๆ ประคองพาหลบหนีไปได้ จึงได้จัดกำลังออกไล่ล่าส่งวิทยุให้สกัดเส้นทางต่าง ๆ พร้อมประสานไปยังท้องที่ใกล้เคียงให้ออกตรวจสอบตามสถานีอนามัยและสถานพยาบาลต่างๆ เชื่อว่า คนร้ายที่บาดเจ็บอาจเข้าไปรับการรักษา เบื้องต้นคาดว่า คนร้ายชุดนี้เป็นอาร์เคเค.รุ่นใหม่ ออกซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ทหารพรานเพื่อสร้างอิทธิพล และสถานการณ์ในพื้นที่ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง.

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าล่าสุด จ.ส.อ. ปรีดา หงสกุล อายุ 49 ปี หัวหน้าชุด ได้เสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา และยังคงเหลือรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลาอีก 3 นาย และหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครองได้เข้าปิดล้อมตรวจค้นที่โรงเรียนปอเนาะแห่งหนึ่ง แต่ไม่พบบุคคลต้องสงสัยและได้ควบคุมผู้ต้องสงสัยจำนวน 1 คน ซึ่งอาศัยอยู่ที่บ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เนื่องจากมีท่าทางพิรุธและเสื้อผ้ามีการปนเปื้อนจนท.จึงต้องนำตัวไปตรวจสอบ ตาม พรก.ฉุกเฉิน

อส.ทพ.ทหารพรานที่ได้รับบาดเจ็บแต่ยังคงให้การได้ เปิดเผยว่าขณะขับขี่รถ.จยย.จำนวน 3 คน 6 นายออกลาดตระเวนเส้นทางและเพื่อไปพบปะกับชาวบ้านเพื่อช่วยชาวบ้านพัฒนา หมู่บ้านในวันนี้ระหว่างเดินทางออกจากฐานได้ไม่นาน ก็มีกลุ่มคนประมาณไม่ต่ำกว่า 10 คนซึ่งหลบซ่อนตัวอยู่ป่าข้างทางได้ระดมยิงเข้าใส่ด้วยอาวุธปืนนานาชนิดตนเอง และหัวหน้าชุดได้กระโดดหลบหาที่กำบังแต่เนื่องจากกำลังที่น้อยกว่าแต่ก็ กัดฟันสู้ตาย จนคนร้ายหลบหนีไป แต่ถึงอย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าคนร้ายที่มาดักซุ่มยิงนั้นได้ถูกกระสุนปืนของ ตนเองไปจำนวน 1 นัด จนได้ยินเสียงร้องและวิ่งหลบหนีไป ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ตนเกือบเอาชีวิตไม่รอดเพราะกลุ่มคนร้ายมีจำนวนมากกว่า แต่ด้วยองค์พระที่ตนแขวนอยู่หลายองค์ได้ช่วยคุ้มครองให้ตนเองได้รับบาดเจ็บ น้อยกว่าเพื่อนๆ

ขอบคุณข่าวจากไทยรัฐ http://www.thairath.co.th/content/region/115973

ขอบคุณค่ะ ที่นำข่าวมาให้ได้รับรู้

อส.ทพ.ทหารพรานที่ได้รับบาดเจ็บแต่ยังคงให้การได้ เปิดเผยว่าขณะขับขี่รถ.จยย.จำนวน 3 คน 6 นายออกลาดตระเวนเส้นทางและเพื่อไปพบปะกับชาวบ้านเพื่อช่วยชาวบ้านพัฒนา หมู่บ้านในวันนี้ระหว่างเดินทางออกจากฐานได้ไม่นาน ก็มีกลุ่มคนประมาณไม่ต่ำกว่า 10 คนซึ่งหลบซ่อนตัวอยู่ป่าข้างทางได้ระดมยิงเข้าใส่ด้วยอาวุธปืนนานาชนิดตนเอง และหัวหน้าชุดได้กระโดดหลบหาที่กำบังแต่เนื่องจากกำลังที่น้อยกว่าแต่ก็ กัดฟันสู้ตาย จนคนร้ายหลบหนีไป แต่ถึงอย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าคนร้ายที่มาดักซุ่มยิงนั้นได้ถูกกระสุนปืนของ ตนเองไปจำนวน 1 นัด จนได้ยินเสียงร้องและวิ่งหลบหนีไป ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ตนเกือบเอาชีวิตไม่รอดเพราะกลุ่มคนร้ายมีจำนวนมากกว่า

แม้แต่เดินทางไปช่วยชาวบ้าน ไปปฏิบัติหน้าที่ ก็ยังมีแต่อันตราย ..แต่ก็ยังไป ยังทำหน้าที่ด้วยหัวใจ
ขอบคุณทหารตำรวจที่เสียสละและรับผิดชอบทุกท่าน
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของทหารที่เสียชีวิต
และขอใหุ้ทหารที่รักษาตัวอยู่ปลอดภัย ร่างกายแข็งแรงดังเดิมค่ะ

เขาไม่รู้ว่า วันใดที่ออกไป แล้วไม่ได้กลับบ้าน
แต่ เพราะรับผิดชอบจึงต้องออกไป

ขอบคุณในความรับผิดชอบของตำรวจทหารทุกคนที่รับผิดชอบ ครับ

ขอให้ทุกคนที่ทำงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ได้กลับบ้านโดยปกติในทุกๆ วัน

ขอบคุณสำหรับข่าวครับ ให้ได้รับรู้กัน ในขณะทุกวันที่ผ่านไป คน สนใจแต่เป้าหมายตน